คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง รวม 9 วิธีจัดห้องป้องกันไรฝุ่น สำหรับคนเป็นภูมิแพ้ สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีระยะยาว

ที่ไหนมีฝุ่นที่นั่นมีไรฝุ่น เชื่อหรือไม่ว่าสิ่งเล็กๆ ที่บางครั้งแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า สามารถสร้างปัญหาด้านสุขภาพให้ใครหลายคน ไม่ว่าจะเป็น เกิดการระคายเคืองผิวหนัง ดวงตา ก่อให้เกิดผื่นคัน รวมถึงเกิดอาการตาแดง ถึงจะไม่ใช่โรคร้ายแรงแต่ก็ทำให้เสียสุขภาพร่างกายและรบกวนจิตใจได้ วันนี้ Lunio ได้รวบรวม 10 วิธีจัดห้องป้องกันไรฝุ่นสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ มาฝากกัน..
เลือกหัวข้อที่ต้องการอ่าน
Toggle
ทำไมในห้องนอนถึงมีฝุ่น ฝุ่นและไรฝุ่นต่างกันอย่างไร?
ฝุ่น ก็คืออนุภาคขนาดเล็กมากที่ลอยอยู่ในอากาศ จุดไหนที่ไม่ได้ทำความสะอาด หากเอานิ้วไปปาดพื้นผิวบริเวณนั้นก็จะพบว่ามีลักษณะเป็นเศษผงเล็กๆ สีเทาๆ อาจเกิดจากควัน ดิน ทราย ท่อไอเสีย แป้ง ละอองเกสร เส้นใยผ้า กระดาษ เศษมูลของแมลงสาบ รวมไปถึงเซลล์ผิวหนังที่หลุดออกจากร่างกายมนุษย์และสะเก็ดผิวหนังสัตว์ ส่วน ไรฝุ่น คือ สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กมาก ขนาดเพียงแค่ 0.1-0.3 มิลลิเมตร เราแทบมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ไรฝุ่นเป็นจำพวกเดียวกับเห็บ มีรูปร่างกลมรี สีขาว อาศัยอยู่ตามฝุ่นหรืออยู่ในที่มืดและอับชื้น เช่น ห้องนอน บนที่นอน ผ้าห่ม หมอน และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ
จัดห้องป้องกันไรฝุ่นสร้างสภาพแวดล้อมของห้องนอนที่ดี
1. เริ่มตั้งแต่การปลูกต้นไม้ช่วยดักฝุ่นรอบบ้าน
หลายคนที่รักการทำสวนรอบบ้านน่าใจพอทราบดีว่า “ต้นไม้” นอกจากจะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเชียวให้มองไปแล้วรู้สึกสบายตา ต้นไม้บางชนิดยังมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยลดปัญหาการฟุ้งกระจายของฝุ่นได้บางส่วน หากปลูกไว้รอบๆ บ้าน จะช่วยดักฝุ่นที่อาจจะถูกลมพัดเวลาเปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศได้ดี
2. เปิดหน้าต่างเพื่อระบายอากาศบ้าง หรือใช้เครื่องฟอกอากาศช่วย
การเปิดหน้าต่างเป็นวิธีการระบายอากาศที่ง่ายที่สุด เพราะห้องนอนต้องเป็นห้องที่อากาศถ่ายเทสะดวก จึงควรมีหน้าต่างให้อากาศได้หมุนเวียน แต่ในช่วงนี้ที่ฝุ่น PM2.5 ค่อนข้างเยอะ ก็อาจจะต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะถ้าห้องนอนของเราอยู่ติดถนนหรือแหล่งกำเนิดฝุ่น ควรหลีกเลี่ยงการเปิดหน้าต่าง และใช้เป็นเครื่องฟอกอาศแทน
3. เลือกห้องนอนที่แสงสว่างตอนเช้าส่องถึง จะช่วยลดความชื้นในห้องและช่วยฆ่าเชื้อโรค
การเลือกห้องนอนอยู่ในทิศที่แสงสว่างส่องถึง โดยเฉพาะหากเป็นห้องที่รับแสงยามเช้าจะยิ่งดี เพราะแสงแดดจะช่วยขจัดเรื่องของความอับชื้น นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคบางชนิดได้อีกด้วย
4. กำจัดของใช้จุกจิก เลือกเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นที่ไม่สะสมฝุ่น
ยิ่งห้องนอนของเรามีของใช้จุกจิกมากแค่ไหน ยิ่งเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นมากเท่านั้น จึงควรเลือกเฟอร์นิเจอร์ให้น้อยชิ้น หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งที่เป็นแหล่งสะสมของฝุ่น และลดการเก็บสะสมของจุกจิก เช่น ตุ๊กตา ดอกไม้ปลอม หนังสือต่างๆ
5. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการนอนที่มีคุณสมบัติปลอดฝุ่นและไรฝุ่น
แน่นอนว่าสิ่งที่ใกล้ตัวเรามากที่สุดคือสิ่งที่เราใช้ตอนนอนหลับ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปูที่นอน หมอน โดยเฉพาะที่นอน เพราะเราสัมผัสโดยตรงและใกล้ระบบหายใจ จึงควรเลือกใช้แบบที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันฝุ่นหรือไรฝุ่นโดยเฉพาะ
6. ป้องกันฝุ่นในห้องนอน ด้วยการจัดระเบียบของใช้จิปาถะ
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้บ้านรกและเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นหรือไรฝุ่น คือของจิปาถะต่างๆ ดังนั้น จึงควรคัดแยกหมวดหมู่ของใช้จิปาถะ โดยใช้กล่องจัดระเบียบสีใสในการคัดแยกสิ่งของเพื่อให้ง่ายต่อการมองเห็น เช่น สมุดจด กุญแจ รีโมทต่างๆ ก่อนจะนำไปจัดวางในลิ้นชัก หรือเก็บไว้ในที่ที่เราจะหยิบใช้ได้ง่าย ใช้กล่องจัดระเบียบในการใส่ของใช้ที่ซื้อมาตุนไว้ เช่น ครีมบำรุงผิว สบู่อาบน้ำ เก็บใส่ตู้ให้เรียบร้อย
7. จัดเก็บสิ่งของที่สะสมฝุ่นไว้ในตู้ที่ปิดมิดชิด
ป้องกันฝุ่นในห้องนอน ด้วยการจัดเก็บสิ่งที่สะสมฝุ่น อย่างเช่นเสื้อผ้าและหนังสือ โดยควรจัดเก็บไว้เป็นสัดส่วนอย่างมิดชิด เสื้อผ้าต่างๆ ควรอยู่ในตู้ปิดแยกหรือ walk in closet ส่วนหนังสือหรือของตกแต่งที่เราชอบอย่างอาร์ตทอยต่างๆ ที่อยากโชว์ให้เห็นถึงความสวยงาม สามารถเก็บใส่ตู้กระจกใสที่มองเห็นของภายในได้ เพื่อหลีกเลี่ยงการสะสมของฝุ่นและไรฝุ่น
8. เลือกเฟอร์นิเจอร์และจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้ปลอดฝุ่น
- วัสดุปูพื้นสำหรับห้องนอนควรเลือกเป็นพื้นไม้เพราะไม่อมฝุ่น
- หลีกเลี่ยงเฟอร์นิเจอร์หรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารก่อภูมิแพ้
- เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เท่าที่จำเป็น โดยเฉพาะเบาะหรือโซฟาต่างๆ
- เลือกใช้สีทาภายในสำหรับห้องนอน แบบไร้สารตะกั่ว มีคุณสมบัติป้องกันเชื้อราและแบคทีเรีย
- หลีกเลี่ยงการปูพื้นหรือตกแต่งห้องนอนด้วยพรม เพราะพรมเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและความชื้น
9. หมั่นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ และของใช้ภายในห้อง
ควรหมั่นทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์ และของใช้ภายในห้อง โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศภายในห้องนอน ควรล้างอย่างน้อยทุก 3 – 6 เดือน โดยเฉพาะในช่วงที่ค่าฝุ่น PM 2.5 มีค่าสูง ผ้าม่านซึ่งเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นควรเลือกแบบที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้บ่อยๆ
เลือกที่นอนที่เป็นมิตรกับคนเป็นภูมิแพ้ Lunio Gen4 ที่นอนยางพารา ผสานเทคโนโลยีอวกาศแบบ x4
การเลือกที่นอนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับคนเป็นภูมแพ้เป็นอย่างมาก เพราะที่นอนบางประเภทเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยชั้นดีสำหรับไรฝุ่น ที่นอนสำหรับคนเป็นภูมิแพ้ง่ายจึงควรผลิตจากวัสดุที่ปลอดไรฝุ่นโดยเฉพาะ อย่างที่นอน Lunio Gen4 ที่นอนยางพารา ผสานเทคโนโลยีอวกาศแบบ x4 ที่ช่วยป้องกันไรฝุ่น ด้วยคอนเซ็ปต์การออกแบบเสมือนที่นอนมีชีวิตและหายใจได้ โดยอาศัยหลักการในการทำงานร่วมกันต่อเนื่องของนวัตกรรมวัสดุต่างๆ ภายในที่นอน ทั้งช่วยให้นอนสบายมากขึ้นในขณะที่นอนอยู่ ไปจนถึงช่วยป้องกันสิ่งสกปรกต่างๆ โดยเฉพาะไรฝุ่นที่จะมาสะสมในที่นอนขณะที่ไม่ได้ใช้งาน
ที่นอนทำมาจากวัสดุอะไร?
ที่นอน LUNIO GEN 4 ประกอบด้วย 7 ชั้นวัสดุ ได้แก่..
- ชั้นที่ 1 Smart Cooling Fabric : ผ้าคลุมเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อการนอนที่เย็นสบาย รักษาสุมดุลอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อร่างกาย หลับสบายทุกสภาพอากาศ ลดเหงื่อออกขณะนอนหลับ
- ชั้นที่ 2 Lunio Natural Latex® : น้ำยางพาราธรรมชาติแท้ฉีดขึ้นรูป ยืดหยุ่นสูง รองรับกระดูกสันหลังถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ และมีรูระบายอากาศทั่วทั้งแผ่น
- ชั้นที่ 3 Zero-Pressure Marble Cool Memory Foam : เมมโมรี่โฟมจากนวัตกรรมอวกาศ รองรับร่างกาย กระจายแรงกดทับ ผสาน AirGel Molecule® ช่วยกระจายความเย็น และระบายอากาศได้ดี 30X เท่า
- ชั้นที่ 4 Kikoo Tech Pro : เทคโนโลยีแผ่นปรับความเย็นจากประเทศเยอรมันนี ช่วยขจัดความร้อน ปรับอุณหภูมิเย็นลง 2°C ให้คุณนอนหลับเย็นสบายได้นานถึง 12+ ชั่วโมง
- ชั้นที่ 5 HexaGrid Pro : นวัตกรรมชั้นโฟม 6 เหลี่ยม เพิ่มการรองรับและลดแรงกดทับช่วงกลางลำตัวช่วยกระจายน้ำหนัก ลดแรงเคลื่อนไหว สบายกว่าโฟมธรรมดาถึง 30%*
- ชั้นที่ 6 Lunio Smart Stabilizer Base : พัฒนาให้รองรับสรีระร่างกาย 9 โซน พร้อมผสมแร่ธาตุกราฟีน จนเป็นเทคโนโลยี Lunio Diamond Fusion® เอกสิทธิ์เฉพาะ ที่ช่วยถ่ายเทความร้อนส่วนเกินออกจากที่นอน
- ชั้นที่ 7 Matrix Protective Cover : ผ้าคลุมฐานที่นอน เส้นใยเหนียวแน่น ถักทอ 4 ทิศทาง เพื่อความทนทาน ระบายอากาศ ลดการอับชื้นและการเกิดเชื้อรา
สามารถเข้าไปดูรายละเอียดติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ทาง Facebook Fanpage : Lunio