รอยคล้ำใต้ตาเป็นปัญหาที่ทุกคนต้องพบเจออยู่บ่อย ๆ และยังทำให้เราเสียความมั่นใจในตัวเองได้ด้วย อย่างไรก็ตาม วิธีที่จะทำให้รอยคล้ำใต้ตาจางลงไปก็ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ยาก แต่ก่อนที่เราจะไปดูวิธีการลดรอยคล้ำใต้ตา ก่อนอื่นเรามาดูสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตากันก่อน
สาเหตุของรอยคล้ำใต้ตาคืออะไร?
ผิวหนังใต้ตามีความบางมากกว่าผิวส่วนอื่น ๆ ทำให้ดูโปร่งแสงและละเอียดอ่อนมาก ทำให้เรามองเห็นสีม่วงอมน้ำเงินของเส้นเลือดผ่านผิวหนังใต้ตาบาง ๆ ได้ง่าย อย่างไรก็ตามมีหลายสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยคล้ำใต้ตา เช่น การไหลเวียนเลือดที่ไม่ดีก็สามารถทำให้เส้นเลือดใต้ตาเกิดการขยายได้ ส่งผลทำให้เส้นเลือดใหญ่ขึ้นและเข้มขึ้น จึงมองเห็นเป็นรอยคล้ำใต้ตานั่นเอง
อีกสาเหตุหนึ่งคือการจ้องหน้าจอคอมหรือมือถือนานเกินไป เพราะจะทำให้ตาล้าได้ ซึ่งพอตาล้าก็จะทำให้เส้นเลือดใต้ตาใหญ่และเข้มขึ้น ส่งผลให้ดวงตาของเราดูไม่สดใสและดำคล้ำขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้ รอยคล้ำใต้ตาอาจมีสาเหตุมาจากปัจจัยต่าง ๆ ด้วย เช่น การโดนแสงแดดมากเกินไป สูบบุหรี่ นอนน้อยเกินไป พันธุกรรม พฤติกรรมต่าง ๆ อาการขาดน้ำ หรือการดื่มแอลกอฮอล์
จะลดรอยคล้ำใต้ตาได้อย่างไร?
เช่นเดียวกับการดูแลสุขภาพอื่น ๆ อย่างการใช้ชีวิตที่มีสุขอนามัยที่ดีและการดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทั้งสองอย่างนี้จะช่วยลดความหมองคล้ำที่เกิดขึ้นใต้ตาเราได้ ส่วนวิธีอื่น ๆ ก็อย่างเช่น
- การออกกำลังกายเยอะ ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
- การนอนหลับลึกและการนอนหลับให้เพียงพอ
- การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ รวมถึงผลไม้สด ผัก ธัญพืชไม่ขัดสี โปรตีน และไขมันที่ดีต่อสุขภาพ
- ทาครีมกันแดด
- ดื่มน้ำเยอะ ๆ
- เลิกสูบบุหรี่
ผู้ที่มักมีปัญหารอยคล้ำใต้ตา
นอกจากนี้ รอยคล้ำใต้ตายังพบได้บ่อยทั้งในผู้ชายและผู้หญิง และก็มักมาพร้อมกับถุงใต้ตาด้วย ซึ่งมันทำให้เราดูแก่กว่าอายุจริง ทั้งนี้ผู้ที่มีปัญหารอยคล้ำใต้ตาที่พบได้บ่อย คือ:
- ผู้สูงอายุ
- ผู้ที่มีความบกพร่องทางพันธุกรรม (periorbital hyperpigmentation)
- กลุ่มคนที่มาจากชาติพันธุ์ที่ไม่ใช่คนผิวขาว (โทนสีผิวคล้ำมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยคล้ำบริเวณใต้ตาได้มากกว่า)
แม้ว่าความเหนื่อยล้าอาจดูเป็นเหมือนเหตุผลที่ก่อให้เกิดรอยคล้ำใต้ตามากที่สุด แต่ปัญหาเรื่องรอยคล้ำใต้ตาก็มีปัจจัยหลายประการ และในกรณีส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีอันตรายอะไร และไม่ถึงกับต้องเข้าไปพบแพทย์ด้วย แต่เราอาจใช้วิธีง่าย ๆ ในการกำจัดหรือลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาด้วยวิธีอื่น ๆ แทน
https://www.healthline.com/health/dark-circle-under-eyes#_noHeaderPrefixedContent