ผลกระทบด้านสุขภาพที่ร้ายแรงที่สุดอย่างหนึ่งก็คือการเป็นโรคเบาหวาน และความสัมพันธ์ระหว่างการนอนหลับกับโรคเบาหวานก็เป็นเรื่องที่ซับซ้อน เพราะการนอนหลับมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเผาผลาญอาหาร คอยควบคุมความอยากอาหาร รูปแบบการรับประทานอาหาร และการใช้น้ำตาลในเลือด
การนอนหลับเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเผาผลาญอาหาร
การนอนหลับเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในการฟื้นฟูและซ่อมแซมร่างกายในระดับเซลล์ ซึ่งรวมถึงการบำรุงรักษาระบบภูมิคุ้มกันและการเผาผลาญพลังงานในร่างกาย ปัญหาการนอนหลับส่งผลต่อการเป็นโรคเบาหวานทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยการไปกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นและเป็นโรคอ้วน
ภาวะหยุดภายใจขณะนอนหลับเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน
ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีแนวโน้มที่จะมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ และปัญหาการนอนหลับอื่น ๆ และผู้ที่นอนหลับไม่เพียงพอก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน นอกจากนี้โรคอ้วนก็เป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานด้วย
ปัญหาการนอนหลับส่งผลต่ออินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือด
อินซูลินเป็นฮอร์โมนที่ผลิตโดยตับอ่อน ที่ช่วยให้เซลล์ในกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อของร่างกายดูดซึมกลูโคสจากกระแสเลือด เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงาน ด้วยวิธีนี้อินซูลินจึงควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ในขณะที่เซลล์สามารถต้านทานอินซูลินไม่ให้สามารถดูดกลูโคสจากเลือดได้ ซึ่งหากใครที่มีปัญหาการนอนหลับก็จะส่งผลต่ออินซูลินอย่างแน่นอน
ปัญหาการนอนหลับที่อาจส่งผลต่ออินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือด
- เปลี่ยนแปลงเวลาเข้านอนบ่อย ๆ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานเป็นกะ
- นอนหลับกระสับกระส่ายหรือนอนไม่หลับ
- มีอาการนอนไม่หลับต่อเนื่อง
- การนอนหลับมากเกินไปหรือน้อยเกินไป
สำหรับอาการนอนไม่หลับหรือผู้ที่อดหลับอดนอนอยู่บ่อย ๆ แน่นอนว่ามันส่งผลต่อเซลล์ในตับอ่อนที่ทำหน้าที่ปล่อยอินซูลิน เพราะการนอนหลับไม่เพียงพอทำให้เกิดความเครียดในเซลล์ตับอ่อนและทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง อีกทั้งความเครียดยังทำให้เกิดการหยุดชะงักของน้ำตาลในเลือดอีกด้วย ดังนั้นการนอนหลับให้เพียงพอและเลือกที่นอนที่เหมาะสมแก่การนอน จึงเป็นวิธีที่จะหลีกเลี่ยงการเกิดโรคเบาหวาน
อ้างอิง