ช้อปที่นอนใหม่รับซัมเมอร์ เพื่อเติมเต็มความสบายให้คุณในหยุดยาวนี้ กับไอเทมลดสูงสุดกว่า50% ลดเพิ่มสูงสุดกว่า 1,000 บาท* วันนี้ – 27 เมษายน 2567 นี้เท่านั้น
logonew
ตะกร้าสินค้า

No products in the cart.

Return To Shop
0.00฿ 0
ระยะเวลาโปรโมชั่น 3.3 Mega Sale
วัน
ชั่วโมง
นาที
วินาที

ไม่ควรพลาด! “ที่นอนสปริง” และ “ที่นอนยางพารา” ต่างกันอย่างไร?

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

 

หากย้อนกลับไปเมื่อช่วงหลายปีก่อน การเลือกใช้เตียงแทบจะผูกขาดไปกับ “ที่นอนสปริง” เพียงอย่างเดียว กระทั่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาถึงจะเริ่มมีกระแสใช้ “ที่นอนยางพารา” หรือวัสดุอื่นๆ บ้าง แต่บางท่านที่เคยใช้แบบสปริงมานานอาจจะสงสัยว่า แล้วที่นอนทั้ง 2 แบบต่างกันอย่างไร? เพื่อให้เลือกได้โดนใจ ตอบโจทย์กับคุณภาพการนอนคุณมากที่สุด บทความนี้จะขอพาทุกท่านไปดูข้อดี-ข้อเสียของที่นอนแต่ละแบบกัน!

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

การรองรับสรีระ

ด้วยความที่คนเราจะต้องนอนอยู่บนเตียงเป็นเวลากว่า 6-10 ชั่วโมงต่อวัน เรื่องแรกที่ต้องพูดเลยก็คือ การรองรับสรีระร่างกาย ในส่วนของ ที่นอนแบบสปริง จะค่อนข้างแข็ง และมีความเด้งดึ๋งแบบสปริง (ลวดขด) ที่รองอยู่ภายใน ทำให้เกิดการกระเด้งตัว ไม่ได้เกิดการกระจายน้ำหนักได้อย่างทั่วถึง ทำให้เตียงแบบสปริงในบางจุดเกิดแรงกดที่บางส่วนของร่างกาย ขณะที่ ที่นอนยางพารา จะมีความยืดหยุ่น กระจายน้ำหนักได้อย่างทั่วถึง จึงทำให้รองรับสรีระได้ทุกท่วงท่าการนอน ไม่ว่าจะนอนราบหรือตะแคงก็ตาม โดยเฉพาะที่นอนยางพาราไฮบริด LUNIO Gen 2 ที่ถูกออกแบบมาให้โอบรับร่างกายถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์ หลับสนิทขึ้น 30% แก้ปัญหาอาการปวดหลังจากการนอนที่ไม่เหมาะสม!

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

ความทนทาน

แน่นอนว่า ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ย่อมมีอายุการใช้งานที่จำกัด แต่คงไม่มีใครที่อยากลงทุนไปแล้ว ใช้ได้ไม่นานก็ต้องซื้อใหม่ใช่ไหม? ในเรื่องของความทนทาน หากคุณภาพเตียงได้มาตรฐานและมีการดูแลอย่างดี ที่นอนทั้งสองแบบก็จะใช้งานได้ยาวนานถึง 10 ปีขึ้นไป เพียงแต่ที่นอนแบบสปริงเมื่อใช้ไปนานๆ จะมีความยืดหยุ่นน้อยลง และเกิดเสียงดังได้ง่ายมากขึ้น แต่ที่นอนยางพาราจะไม่มีปัญหาแบบนั้น และมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่มากกว่าแบบสปริงประมาณ 5-10 ปี โดยผลิตภัณฑ์ของ LUNIO กล้ารับประกันยาวนานกว่า 12 ปี

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

การสะเทือน เมื่อเคลื่อนไหว

สำหรับคนที่ปกติไม่ได้นอนคนเดียว แล้วเป็นคนที่ตื่นง่าย อาจจะต้องใส่ใจในหัวข้อนี้เพิ่มเติมกันซักหน่อย เพราะถ้าเลือกที่นอนแบบสปริงอาจจะต้องเจอปัญหากับเสียงหรือการกระเด้งตัวจนเตียงสั่นสะเทือน เมื่อเทียบกับที่นอนยางพาราที่จะมีการยุบและคืนตัวอย่างธรรมชาติ ลดการสั่นสะเทือนของที่นอนได้พอสมควร ไม่ว่าจะพลิกตัวไปทางไหนก็ไม่รบกวนคนที่นอนเตียงเดียวกัน (ลดโอกาสทะเลาะ เพราะต้องตื่นกลางดึกไปอีก)

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

ลดโอกาสเกิดภูมิแพ้

หากพิจารณาแค่ในส่วนของที่นอนต้องยอมรับว่า ที่นอนยางพารา มีโครงสร้างของวัสดุที่ละเอียดจนสามารถช่วยลดโอกาสสะสมสิ่งก่อภูมิแพ้ อย่าง ฝุ่น ไรฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรีย ฯลฯ ส่วนที่นอนแบบสปริง แม้ตัวของที่นอนเองจะมีส่วนสะสมสารก่อภูมิแพ้ แต่ก็ลดโอกาสได้ด้วยการเลือกเนื้อผ้าชุดผ้าปูที่นอน อย่างผ้าไหมมัลเบอร์รี่ หรือ อื่นๆ

ที่นอนสปริง vs ที่นอนยางพารา

จุดด้อยของที่นอนสปริงและที่นอนยางพารา

ที่นอน สปริง : ข้อเสียหลักของที่นอนแบบสปริงจะเป็นเรื่องการสะเทือนเวลาคนพลิกตัวไปมา และการกดทับที่ร่างกายบางจุดทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยไม่สบายตัว

ที่นอนยางพารา : ปกติข้อเสียจะมีเพียงข้อเดียวคือ ราคาสูงกว่า ที่นอนแบบสปริง แต่ถ้ามองถึงเรื่องการลงทุนในระยะยาว เพราะปกติที่นอนยางพาราจะมีอายุการใช้งานมากกว่าก็ถือว่า คุ้มค่า

ถึงจะเป็นที่นอนเหมือนกัน แต่คุณสมบัติที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานในการนอนไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นก่อนที่จะเลือกว่า จะใช้ “ที่นอนสปริง” หรือ “ที่นอนยางพารา” ขอแนะนำให้เช็คลิสต์ตามหัวข้อที่ทาง LUNIO ได้แนะนำไปในข้างต้นมาเทียบกันว่า แบบไหนที่ตอบโจทย์การนอนคุณและคนที่คุณรักได้ดีมากกว่ากัน หากคำตอบของคุณคือ ที่นอนยางพารา อย่าลืมพิจารณา LUNIO Gen3 ที่นอนไฮบริดที่ส่งเสริมสุขภาพการนอนของคุณมากกว่า 30% 

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า