สายฝน และอากาศผ่อนคลายกำลังมาเยือน แต่ก็อาจนำปัญหาสุขภาพต่างๆ มาเยือน ให้เรายิ่งต้องหมั่นดูแลสุขภาพและระวังตัวเองให้มากขึ้น เรารวบรวมโรคที่มาพร้อมน้ำฝนพร้อมวิธีดูแลตัวเองมาฝาก เพื่อให้ทุกท่านผ่านหน้าฝนไปได้อย่างแฮปปี้
1. ปัญหาสุขภาพเท้า
การสวมรองเท้าหุ้มส้นอย่างเช่นรองเท้าผ้าใบตากฝนอาจทำให้เกิดความชื้น และอาจนำมาซึ่งอาการคัน และเป็นแผลได้ที่เท้าได้
วิธีแก้ปัญหาคือพยายามไม่วิ่งตากฝน หรือเหยียบแอ่งน้ำโดยตรง แต่หากจำเป็นต้องเจอสถานการณ์แบบนั้นจริงๆ เมื่อกลับถึงบ้านก็ควรรีบล้างทำความสะอาดเท้า และเช็ดให้แห้ง และอย่าลืมดูแลความสะอาดของรองเท้าด้วยนะ เพราะรองเท้าที่เปียกน้ำก็เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้เหมือนกัน จึงควรทำความสะอาด รองเท้าและตากให้แห้งเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคที่อาจทำร้ายเท้าคุณ
2. โรคหวัด
ในช่วงฤดูฝนที่มีสภาพอากาศค่อนข้างชื้นเหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส จึงอาจทำให้เราเสี่ยงต่อการเป็นหวัดได้มากขึ้น ยิ่งหากตากฝนจนทำให้ศีรษะเปียกฝนก็อาจทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดลง และทำให้เชื้อไวรัสที่ตกค้างในร่างกายเกิดการเจริญเติบโตและแบ่งตัวมากเกินกว่าภูมิต้านทานที่มีจะรับไหว หรือคนที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ต่ำอยู่แล้วก็อาจยิ่งทำให้เป็นหวัดได้ง่ายขึ้นไปอีก
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นหวัดในช่วงหน้าฝนเมื่อต้องตากฝน คือเมื่อถึงบ้านให้รีบอาบน้ำและเช็ดตัวให้แห้งและแม้ไม่ได้ตากฝนก็ต้องหันมาดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีด้วยการรับประทานอาหารให้มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ นอนหลับพักผ่อนให้ได้วันละ 7-8 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างปกติ ก็จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดช่วงหน้าฝนได้
3. ยุง
ยุงถือเป็นพาหะของโรงร้ายสารพัดโรค เช่น ไข้เลือดออก, ไข้ซิกา, มาลาเรีย, ไข้ปวดข้อยุงลาย เป็นต้น ยิ่งช่วงหน้าฝนที่มีน้ำขังตามจุดต่างๆ ในบ้านมากกว่าฤดูไหน จึงอาจเป็นที่อยู่และแหล่งเพาะพันธุ์ยุงได้ ทำให้เราเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคจากยุงมากขึ้น
วิธีแก้ปัญหาคือ เก็บบ้านให้สะอาดเพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบให้ยุงไปเกาะพัก เก็บขยะเศษภาชนะต่างๆ เพื่อไม่ให้เป็นที่อยู่อาศัยของยุง และ ปิดฝาภาชนะที่ใส่น้ำให้มิดชิดเพื่อป้องกันยุงไปวางไข่ จนกลายเป็นแหล่งเเพาะพันธุ์ยุงในบ้าน
หน้าฝนคือช่วงที่อากาศชื้นมากกว่าฤดูไหนๆ จึงควรทำร่างกายให้อบอุ่น ด้วยการแต่งตัวให้เหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละวัน และหากต้องตากฝน เมื่อกลับบ้านก็ควรรีบทำความสะอาดร่างกาย และเช็กตัวให้แห้ง เพื่อให้อุณหภูมิในร่างกายอยู่ในระดับปกติ ที่สำคัญต้องพักผ่อนให้เพียงพอ โดยอาจเลือกที่นอนที่ช่วยให้ร่างกายพักผ่อนได้เต็มที่ อย่างที่นอนยางพารา Lunio Gen2 ที่นอนเพื่อสุขภาพยางพาราไฮบริดที่มั่นใจได้ว่าช่วยให้ประสิทธิภาพการนอนของคุณดีขึ้นถึง 30% ผ่านการทดสอบแบบ Blind Test จากกลุ่มตัวอย่างจำนวนหนึ่งโดย Bangkok Sleep Center