ช้อปที่นอนใหม่รับซัมเมอร์ เพื่อเติมเต็มความสบายให้คุณในหยุดยาวนี้ กับไอเทมลดสูงสุดกว่า50% ลดเพิ่มสูงสุดกว่า 1,000 บาท* วันนี้ – 27 เมษายน 2567 นี้เท่านั้น
logonew
ตะกร้าสินค้า

No products in the cart.

Return To Shop
0.00฿ 0
ระยะเวลาโปรโมชั่น 3.3 Mega Sale
วัน
ชั่วโมง
นาที
วินาที

“ออฟฟิศซินโดรม” โรคร้ายที่มนุษย์เงินเดือนไม่ควรที่จะมองข้าม!

ออฟฟิศซินโดรม cover

โรคร้ายที่เป็นดั่งเสมือนเพื่อนสนิทของชาวออฟฟิศหรือเหล่ามนุษย์เงินเดือนก็คงจะหนีไม่พ้น “โรคออฟฟิศซินโดรม” อย่างแน่นอน! เนื่องจากเจ้าโรคร้ายโรคนี้ได้แทรกซึมเข้ามากับพฤติกรรมและกิจวัตรประจำวันของชาวออฟฟิศได้อย่างแนบเนียน ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงานอยู่ในท่าเดิมๆ ตลอดทั้งวัน

การนอนบนที่นอนที่ไม่ได้มาตรฐาน การก้มเล่นโทรศัพท์มือถือนานๆ ฯลฯ ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เจ้าโรคร้ายโรคนี้มีความน่ากลัวเลยก็คือ… เมื่อมีอาการปวดหลังหรือปวดตามร่างกาย หลายๆ คน กลับคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วโรคออฟฟิศซินโดรมกำลังเล่นงานร่างกายของคุณอยู่ ซึ่งถ้าปล่อยทิ้งไว้เราก็ขอบอกเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจึงได้รวบรวมต้นตอการเกิดโรค การรักษาและการป้องกันโรคออฟฟิศซินโดรมมาฝาก!

สาเหตุของการเกิดโรคออฟฟิศซินโดรม

สาเหตุของโรคออฟฟิศซินโดรมนั้นมีอยู่นับร้อยนับพันสาเหตุ แต่! โดยหลักๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้เหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องเป็นโรคออฟฟิศซินโดรมเลยก็คือ การทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นเวลานานๆ แล้วไม่ได้ขยับร่างกายหรืออยู่ในท่าที่เหมาะสม เช่นนั่งพิมพ์คอมพิวเตอร์ในท่าเดิมตลอดทั้งวัน จนทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นๆ เกิดการอักเสบ รวมไปถึงอุปกรณ์ในที่ทำงานไม่เหมาะสมกับโครงสร้างของร่างกาย เช่น โต๊ะคอมพิวเตอร์สูงหรือต่ำไป ทำให้หน้าจอไม่อยู่ในระดับสายตา ทั้งนี้ความเครียดจากการทำงาน ที่นอนไม่ได้มาตรฐาน การได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคออฟฟิศซินโดรมได้เช่นเดียวกัน 

ออฟฟิศซินโดรม กลุ่มเสี่ยง

6 อาการสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นออฟฟิศซินโดรม

1.ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นวงกว้าง แต่ไม่สามารถระบุบริเวณที่ปวดได้อย่างชัดเจน อาทิเช่น บริเวณคอ บ่า ไหล่ สะบัก หลังและสะโพก มักจะมาจากการนั่งในท่าเดิมๆ ตลอดทั้งวัน รวมไปถึงนอนบนที่นอนที่ไม่ได้รองรับสรีระร่างกายได้อย่างตรงจุด

2.มือชา นิ้วล็อค ปวดข้อมือ มักจะเกิดจากการออกแรงที่นิ้วมือมากจนเกินไป เช่น การเล่นเกมในโทรศัพท์มือถือ การพิมพ์คอมพิวเตอร์หรือจับเมาส์เป็นเวลานาน 

3.ปวดตึงที่ขาหรือมีอาการเหน็บชา มักเกิดจากการนั่งนานๆ ทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับและส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ

4.อาการตาแห้ง ตาพร่ามัว มักจะเกิดจากการที่ใช้สายตามากจนเกินไป 

5.ปวดศีรษะเรื้อรัง อาการนี้มักจะมาจากความเครียด การใช้สายตาจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มากจนเกินไป หรืออาจจะมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย

6.ปวดหลังเรื้อรัง รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หายขาด 

ออฟฟิศซินโดรม รักษา

วิธีการรักษาโรคออฟฟิศซินโดรมในปัจจุบัน

สำหรับการรักษาโรคออฟฟิศวินโดรมในปัจจุบันนี้จะถูกแบ่งออกเป็น 7 วิธีการหลักๆ ซึ่งประกอบไปด้วย 

1.การทำกายภาพบำบัด 

2.การรักษาด้วยยา

3.การฝั่งเข็ม 

4.การออกกำลังกาย

5.การนวดแผนไทย 

6.การรักษาด้วยคลื่นรักษาแบบรวมพลังงาน Focused shockwave therapy

7.การรักษาด้วยเครื่องกระตุ้นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า Peripheral Magnetic Stimulation (PMS)

ทั้งนี้การปรับเปลี่ยนที่นอนก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการรักษาอาการออฟฟิศซินโดรมแบบเบื้องต้น เนื่องจากที่นอนที่ดีจะรับหน้าที่รองรับสรีระร่างกายของคุณในขณะที่กำลังนอนหลับ โดยไม่ทำให้เกิดการกดทับของกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ รวมไปถึงยังช่วยให้ร่างกายของคุณได้ผ่อนคลายตลอดทั้งคืนอีกด้วย 

ออฟฟิศซินโดรม ป้องกัน

การป้องกันออฟฟิศซินโดรมแบบเบสิกสำหรับมนุษย์เงินเดือน

1.จัดที่นั่งในที่ทำงานให้เหมาะสม 

อันดับแรกให้คุณจัดโต๊ะ+เก้าอี้ให้เหมาะสมกับโครงสร้างของร่างกาย ซึ่งการนั่งทำงานที่ดีหลังจะต้องไม่งอ คอจะต้องไม่ก้ม หน้าจอคอมพิวเตอร์ต้องอยู่ในระดับสายตาพอดี 

2.ขยับร่างกายทุกครึ่งชั่วโมง 

สาเหตุสำคัญที่ทำให้หลายๆ คน ต้องโดนโรคออฟฟิศซินโดรมเล่นงานเลยก็คือ การนั่งอยู่ในท่าเดิมๆ ตลอดทั้งวัน ดังนั้นการขยับร่างกาย ลุกขึ้นมายืดเส้น ยืดสายทุกๆ ครึ่งชั่วโมง หรือเดินไปสูดอากาศด้านนอกบ้าง ก็จะทำให้คุณห่างไกลจากเจ้าโรคนี้แล้วล่ะ 

3.ไม่ควรเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ 

เมื่อยืดเส้นยืดสายไปแล้ว คุณก็อย่าลืมพักสายตาร่วมด้วย เพราะหากคุณใช้สายตามากจนเกินไปอาจจะทำให้กล้ามเนื้อตาเกิดความอ่อนล้าและทำให้ปวดศีรษะเอาได้ 

4.เช็คที่นอนที่บ้าน

บ่อยครั้งที่หลายๆ คน ต้องเป็นออฟฟิศซินโดรมอย่างไม่รู้ตัวก็เพราะว่า “ที่นอนไม่ได้มาตรฐาน” ทำให้ในเช้าที่ตื่นขึ้นมามีอาการปวดหลังหรือปวดเนื้อปวดตัวร่วมด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ที่นอนที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนรักสุขภาพมากที่สุดก็คงจะเป็น “ที่นอนยางพารา” เนื่องจากสามารถรองรับสรีระร่างกายและลดอาการปวดหลังได้เป็นอย่างดีนั่นเอง 

5.ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

รู้หรือไม่ ? การออกกำลังกายนี่แหละคือยาวิเศษ ที่จะทำให้ร่างกายของคุณห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

ข้อมูลเกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรมที่เราได้กล่าวไปข้างต้น คงจะเป็นประโยชน์ให้แก่ชาวมนุษย์เงินเดือนได้ไม่มากก็น้อย อีกทั้งสิ่งที่จะช่วยทำให้คุณห่างไกลจากโรคออฟฟิศซินโดรมแบบง่ายๆ เลยก็คือ “การเลือกซื้อที่นอนที่รองรับกระดูกสันหลังได้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์” เพราะในขณะที่นอนหลับร่างกายของคุณจะได้ไม่เกิดการกดทับของกล้ามเนื้อ รวมไปถึงร่างกายจะได้รู้สึกผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าที่คุณต้องพบเจอมาตลอดทั้งวันนั่นเอง!

บทความคลังความรู้อื่น ๆ

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า