“นอนพลิกไปพลิกมาอยู่บนที่นอน ทำอย่างไรก็ไม่หลับซักที” ปัญหานอนไม่หลับนี้หากมองแบบผิวเผินแล้วมันก็คงจะไม่ได้มีความน่ากลัวหรือดูเป็นโรคที่ร้ายแรงอะไรเท่าไหร่นัก แต่! ตามหลักทางการแพทย์แล้ว เราขอบอกเลยว่าปัญหานอนไม่หลับหรือโรคนอนไม่หลับ คือภัยร้ายที่มีความอันตรายต่อร่างกายของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากมันจะทำให้ร่างกายของคุณอ่อนเพลียแล้ว มันยังเป็นต้นตอของโรคร้ายที่จะตามมาอีกมากมายเลยทีเดียว ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกถึงสาเหตุที่ทำให้คุณนอนไม่หลับ พร้อมกับข้อมูล(ลับ) ที่น่าสนใจเกี่ยวกับประเด็นนี้กัน!
ประเภทของโรคนอนไม่หลับที่คุณต้องรู้!
สำหรับโรคนอนไม่หลับนั้น สามารถแบ่งได้หลายประเภทโดยจะแบ่งตามลักษณะของอาการของผู้ป่วย ซึ่งเราได้สรุปออกมาเป็น 5 ประเภทหลักๆ ดังนี้
1.Initial insomnia
คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมีปัญหานอนหลับยากใช้เวลานอนนานกว่าจะหลับ
2.Maintinance insomnia
คือ ภาวะที่ผู้ป่วยมีการตื่นกลางดึกเป็นประจำ ไม่สามารถนอนหลับยาวได้เหมือนคนปกติ
3.Terminal insomnia
คือ ภาวะที่ผู้ป่วยตื่นเร็วกว่าเวลาที่ควรจะตื่น ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ
4.Chronic insomnia
คือ ภาวะที่ผู้ป่วยนอนไม่หลับเรื้อรัง (มีอาการนอนไม่หลับอย่างน้อย 3 ครั้ง/สัปดาห์ และเป็นมาไม่ต่ำกว่า 3 เดือน)
5.Adjustment insomnia
คือ ภาวะที่ผู้ป่วยนอนไม่หลับจากการปรับตัว อาทิเช่น นอนแปลกที่ เปลี่ยนที่นอนใหม่ ประสบกับปัญหาที่ทำให้วิตกกังวล ฯลฯ ซึ่งเมื่อผู้ป่วยสามารถปรับตัวได้หรือเกิดความสบายใจ อาการนอนไม่หลับก็จะหายไปและกลับมานอนหลับได้ตามปกติ
สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคนอนไม่หลับ
1.ปัญหาสภาพแวดล้อมของห้องนอน อาทิเช่น ห้องนอนสว่างมากเกินไป มีเสียงดังรบกวน อุณหภูมิของห้องที่ไม่เหมาะสม ที่นอนไม่มีคุณภาพแข็งหรือนิ่มจนเกินไปทำให้รู้สึกไม่สบายตัว เป็นต้น
2.มีปัญหาความเครียดสะสม
3.มีภาวะเจ็บป่วยทางร่างกาย(จนไม่สามารถนอนหลับได้)
4.การใช้ยาหรือสารบางชนิดก่อนเข้านอน อาทิเช่น ยากลุ่ม Psudoepheridrine, ยาแก้หอบหืด, ยาต้านอาการซึมเศร้า หรือแม้แต่การดื่มชา กาแฟ และสูบบุหรี่ก่อนเข้านอน
5.มีสภาวะทางจิตใจที่ไม่ปกติ อาทิเช่น ภาวะวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า
6.มีความกังวลว่าจะนอนไม่หลับ(Psychophysiological insomnia) ซึ่งผู้ที่ประสบกับสาเหตุนี้จะมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหานอนไม่หลับเป็นทุนเดิม จนทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัวจนไม่สามารถหลับได้นั่นเอง
7.การตั้งครรภ์หรือเข้าสู่ช่วงวัยทอง
8.ปัญหานอนไม่เป็นเวลา เนื่องจากทำงานเป็นกะ(Shift work) อาทิเช่น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย พยาบาล เป็นต้น
ผลเสียต่อร่างกายเมื่อนอนไม่หลับติดต่อกันเป็นประจำ
เมื่อไหร่ที่ร่างกายของคุณนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ เราขอบอกเลยว่านอกจากอาการง่วงซึม ความรู้สึกไม่สดใสและประสิทธิภาพการทำงาน(ของสมอง)จะลดลงแล้ว มันยังมีผลเสียต่อร่างกายอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น…
1.เสี่ยงต่อการเป็นโรคร้ายเรื้อรัง อาทิเช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น
2.เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ โดยได้มีการศึกษาและวิจัยว่าในคน 1,240 คน มีคนที่นอนน้อยกว่า 6 ชม. ถึง 47% จะมีอาการของมะเร็งลำไส้ มากกว่าคนที่นอนหลับอย่างน้อย 7 ชม.ขึ้นไป ดังนั้นการนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอจึงอาจจะทำให้คุณเป็นเจ้าโรคร้ายนี้ได้ในอนาคต
3.หัวใจอ่อนแอ
4.เสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ
5.ระบบภายในร่างกายรวน อาทิเช่น ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ การถ่ายอุจจาระไม่เป็นเวลา ลำไส้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เป็นต้น
6.เสี่ยงต่อการที่สมรรถภาพทางเพศจะเสื่อม เนื่องจากการที่คุณนอนไม่หลับนั้นจะส่งผลให้ฮอร์โมน “เทสโทสเทอโรน” ต่ำลง ซึ่งนั่นก็จะทำให้ความต้องการทางเพศลดลงไปด้วย
7.อารมณ์ของคุณจะไม่คงที่ โลกดูไม่สดใส ทุกอย่างรอบๆ ตัวดูหม่นหมอง
8.เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้า
9.สมองอ่อนล้า ตัดสินใจเรื่องต่างๆ ได้ช้าลง กระบวนการคิดวิเคราะห์แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งแน่นอนว่าสาเหตุมาจากสมองไม่ได้พักผ่อนนั่นเอง
10.กลิ่นกายตามจุดต่างๆ แรงขึ้น
ยานอนหลับสามารถบรรเทาโรคนอนไม่หลับได้ไหม ?
คำตอบของคำถามในข้อนี้คือ “ได้” แต่! หากใช้ยานอนหลับติดต่อกันเป็นเวลานาน เราก็คงต้องพูดอย่างตรงไปตรงมาว่ามันไม่ใช่เรื่องที่ดีต่อร่างกายของเราอย่างแน่นอน หรือเรียกง่ายๆ ว่ามันอาจะเป็นอันตรายต่อร่างกายของเราเสียด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะเป็น…
1.อาการดื้อยานอนหลับ จนต้องเพิ่มปริมาณในการกินแต่ละครั้ง
2.ติดยานอนหลับ ถ้าหากไม่กินจะมีอาการนอนไม่หลับ กระสับกระส่าย
3.เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
4.เสี่ยงต่อการเป็นอัลไซเมอร์
5.เสี่ยงต่อสภาวะระบบหายใจล้มเหลว(อันตรายถึงชีวิต)
การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายนั้น ถือได้ว่าเป็นวิธีการดูแลตัวเองที่ง่ายมากที่สุด แต่ถ้าหากคุณกำลังประสบกับปัญหานอนไม่หลับคุกคามอยู่ คุณก็ลองพิจารณาว่าสาเหตุที่แท้จริงที่ทำให้คุณเป็นโรคนอนไม่หลับนั้นเกิดขึ้นมาจากอะไร ? เพื่อที่คุณจะได้แก้ไขหรือรักษาโรคดังกล่าวได้อย่างตรงจุด อีกทั้งเรื่องของที่นอนก็เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้การนอนหลับของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งที่นอนที่ดีควรรองรับสรีระของร่างกายได้ตรงตามหลักสรีรศาสตร์และสามารถระบายอากาศได้ดี ไม่เกิดการอับชื้นหรือร้อนอบอ้าวนั่นเอง!