ผลการศึกษาใหม่จากมหาวิทยาลัย Loughborough ของอังกฤษพบว่า ผู้หญิงเป็นเพศที่มีความสามารถในการทำอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ (Multi-taskers) ซึ่งหมายความว่าพวกเขามีปริมาณการใช้สมองที่มากกว่าผู้ชาย จึงทำให้มีความต้องการในการนอนหลับที่มากขึ้นตามไปด้วย
“หนึ่งในหน้าที่หลักของการนอนหลับคือการช่วยให้สมองสามารถฟื้นตัวและซ่อมแซมตัวเองได้ ยิ่งคุณใช้สมองในระหว่างวันมากเท่าไร ก็ยิ่งมีความต้องการในการนอนหลับมากขึ้นเท่านั้น”
John Horne
ผู้เชี่ยวชาญและนักวิจัยด้านการนอนหลับ
การศึกษาพบว่าผู้หญิงนอนเยอะกว่าผู้ชายประมาณ 20 นาทีต่อคืน และถึงแม้ผู้ชายที่ทำงานโดยใช้ความคิดและการตัดสินใจที่มากกว่าผู้ชายทำงานทั่วไปจะต้องการการนอนหลับที่มากกว่า แต่ก็ยังไม่มากเท่ากับผู้หญิงอยู่ดี
ผู้หญิงต้องการการนอนหลับมากกว่าผู้ชาย เพราะสมองของพวกเขามีความหลากหลาย แล้วความหลากหลายนั้นคืออะไร?
ในการศึกษาปี 2014 พบว่าสมองของผู้ชายมีการเชื่อมต่อกันภายในสมองซีกเดียวกันจำนวนมากกว่าการเชื่อมต่อของสมองระหว่างซีกซ้ายและขวา ในขณะที่สมองของผู้หญิงจะมีการเชื่อมต่อของสมองระหว่างซีกซ้ายและขวามากกว่าภายในสมองซีกเดียว และมากกว่าผู้ชาย
ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าสมองผู้ชายสามารถที่จะมุ่งเน้นไปที่งานหนึ่ง ๆ ในเวลานั้นได้งานเดียว ในขณะที่สมองของผู้หญิงสามารถทำหน้าที่หลาย ๆ อย่างพร้อมกันได้ดีกว่า ซึ่งการทำงานหลายอย่างได้พร้อมกันในเวลาเดียวกันนี้ทำให้สมองทำงานหนักมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้หญิงต้องการการนอนหลับมากกว่าผู้ชายนั่นเอง
“สมองของผู้หญิงแตกต่างจากสมองของผู้ชายจริง ๆ … สิ่งที่เราพบก็คือในการทำงานหลาย ๆ อย่างได้พร้อมกันนั้นผู้หญิงจะประมวลผลข้อมูลได้เร็วกว่าผู้ชายถึงห้าเท่า”
Apostolos Georgopoulos
ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สมองที่ Minneapolis Veterans Affairs (VA) Medical Center
อาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ดีที่สมองของผู้หญิงมีความสามารถดังกล่าว แต่ความสามารถดังกล่าวก็ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าสมองของผู้หญิงมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายมากกว่าสมองของผู้ชาย แต่สมองของผู้หญิงก็สามารถฟื้นตัวและทำการซ่อมแซมตัวเองได้เร็วถ้านอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
อ่านบทความเพิ่มเติม: คนโลกส่วนตัวสูงต้องการนอนมากกว่าคนเข้าสังคมหรือเปล่า?
อ้างอิง: