4 ความเข้าใจผิด ๆ เกี่ยวกับการนอนหลับ ที่ทำให้สุขภาพแย่ลง
การนอนหลับ อาจจะเป็นเรื่องที่เข้าใจยาก เพราะบางครั้งก็รู้สึกเหมือนว่าเราต้องการมันมากเท่าไร ก็ยิ่งหายากมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีความเข้าใจผิดมากมายเกี่ยวกับการนอนหลับ ที่อาจจะทำให้คุณมีสุขภาพย่ำแย่ได้ง่าย ๆ จากความเข้าใจผิดนี้
เวลาเมื่อเราเข้านอน การนอนหลับเมื่อหัวถึงหมอนเลยนั้นเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนคาดหวังไว้ บนที่นอนยางพารานุ่ม ๆ แต่หลายคนก็อดไม่ได้ที่จะหยิบมือถือขึ้นมาเลื่อนหน้าจออ่าน Twitter หรือดู Netflix อย่างไรก็ตามก็มีบางคนไม่ใช่น้อยที่ชอบนอนหลับน้อยกว่าคนอื่น กระนั้นก็ยังเป็นสิ่งสำคัญอยู่ดีที่ว่าทำไมเราทุกคนถึงต้องรู้ความจริงเกี่ยวกับการนอนหลับ และนี่คือความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการนอนหลับ 4 ข้อ ที่คุณอาจจะคิดว่ามันคือความจริง แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย!
เชื่อว่าสามารถนอนชดเชยเวลาที่อดนอนได้
หากคุณอดนอนมาทั้งคืนเพื่อทำงานหรืออ่านหนังสือ คุณจะไม่สามารถนอนหลับให้มากขึ้นในคืนถัดไปได้ แม้ว่าร่างกายจะสามารถฟื้นคืนจากอาการอดนอนได้ไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็ไม่สามารถลดช่องว่างจากการอดนอนของคุณได้อย่างเต็มที่ พูดง่าย ๆ ก็คือการนอนหลับในวันเสาร์อาจจะช่วยคุณได้บ้าง ถ้าหากทั้งสัปดาห์คุณนอนน้อย แต่จะไม่ทำให้ร่างกายของคุณสดชื่นหรือได้รับการซ่อมแซมได้อย่างเต็มที่
เชื่อว่าปัญหาการนอนไม่มีผลกับโรคต่าง ๆ
หลายคนคิดว่าผลเสียที่เลวร้ายที่สุดของการนอนหลับไม่เพียงพอ คือจะรู้สึกเหนื่อยในวันรุ่งขึ้น ซึ่งมันก็อาจจะเป็นความจริงส่วนหนึ่ง แต่ที่เลวร้ายกว่านั้นก็คือ การนอนหลับไม่เพียงพออาจนำไปสู่โรคความดันโลหิตสูง ปัญหาหัวใจ และโรคหลอดเลือด และในส่วนของผู้ที่เป็นโรคเบาหวานอยู่แล้ว อาจจะทำให้โรคมีความรุนแรงขึ้นได้ เนื่องจากการนอนหลับไม่เพียงพอจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
เชื่อว่าถ้ารู้สึกเบื่อหน่ายระหว่างวัน เป็นเพราะนอนหลับไม่สนิท
ความรู้สึกง่วงนอนในเวลากลางวันอาจเกิดขึ้นได้ แม้ว่าคุณจะนอนหลับพอเพียง ถ้าคุณรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างต่อเนื่องหรือหลับในระหว่างวัน ทั้ง ๆ ที่คุณนอนหลับมา 7 – 9 ชั่วโมง นั่นอาจเป็นสัญญาณว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายคุณ เช่น คุณอาจไม่ได้นอนหลับถึงขั้น REM, คุณอาจมีภาวะหยุดหายใจขณะนอนหลับ, เป็นโรคลมหลับ (Narcolepsy) เป็นต้น
เชื่อว่าวัยรุ่นเท่านั้นที่ต้องการการนอนหลับอย่างเต็มที่
หนึ่งในความเชื่อทั่วไปเกี่ยวกับการนอนหลับก็คือ เชื่อว่าเด็กวัยรุ่นเท่านั้นที่ต้องการการนอนหลับอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังคิดว่าคนที่มีอายุมากควรนอนหลับแค่ 5 – 7 ชั่วโมง แทนที่จะเป็น 7 – 9 ชั่วโมง อย่างไรก็ดีรูปแบบการนอนหลับอาจเปลี่ยนแปลงไปตามอายุก็จริง แต่ปริมาณการนอนหลับที่เราต้องการไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปตามอายุเลย ผู้สูงอายุอาจนอนหลับน้อยลงในเวลากลางคืน แต่ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้พวกเขาอาจต้องนอนหลับระหว่างวันเพื่อชดเชยปริมาณการนอนที่ลดลงในเวลากลางคืน ซึ่งไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไรปริมาณการนอนที่ดีที่สุดคือ 7 ถึง 9 ชั่วโมงในแต่ละคืน
หากคุณมีปัญหาในการนอนหลับอยู่เป็นประจำ คุณควรเริ่มบันทึกการนอนหลับเพื่อติดตามระยะเวลาที่คุณนอนหลับ และจำนวนครั้งที่คุณตื่นขึ้นมาในแต่ละคืน และควรไปหาหมอเพื่อหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
